มีคำถามเข้ามามากมายว่า ถ้ามีปัญหาผิวแบบนี้ ควรทาน “ซัทสึมะ” หรือ “ซันอะเวย์” ? เพราะหากเลือกทานอย่างเหมาะสม จะสามารถแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุดและช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น วันนี้เรามาดูกันว่า หากมีปัญหาผิวแบบนี้ เราควรเลือกทานซัทสึมะหรือซันอะเวย์ ถึงจะได้ผิวสวยใสกลับคืนมา
1. ฝ้าแดด กระแดด
เมื่อผิวโดนแดด รังสี UV จะกระตุ้นให้ผิวเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้เกิดฝ้ากระ ริ้วรอย ผิวหมองคล้ำและผิวไหม้
แนะนำให้ทาน “ซันอะเวย์”
ให้ทานต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป โดยซันอะเวย์จะเป็นตัวช่วยผิวรับรังสี UV ทำหน้าที่ดักจับและทำร้ายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น ทำให้มีอนุมูลอิสระลดลง จึงช่วยป้องการการเกิดฝ้ากระแดดได้ นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับจากแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยแล้วว่า สารสกัดที่ใช้ในซันอะเวย์ (SunAway) สามารถลดสีฝ้ากระได้ดี ทำให้ผิวกลับมา กระจ่างใส ไร้จุดด่างดำ
2. ฝ้าเลือด
“ฝ้าเลือด” เป็นฝ้าที่คนไทยเป็นกันมาก ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดฝอยบริเวณใบหน้า มีการเพิ่ม ขยายตัวหรือเสียสภาพ ทำให้เห็นรอยเส้นเลือดแตกแขนงที่ใบหน้า เรียกว่า “ฝ้าเส้นเลือด” โดยสาเหตุหลัก เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- แสงแดด มลภาวะ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- การทำเลเซอร์
- ทานยาบางประเภท เช่น ยาคุม ยากันชัก
- ใช้ครีมหน้าขาว ครีมลอกผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่มีส่วนผสมของปรอท แอมโมเนียและสเตียรอยด์
นอกจากนี้ คนเป็น “ฝ้าเลือด” มักจะมีปัญหาผิวบางตามมา ทำให้บางรายแสบผิวเวลาโดนแดดและทาครีม
แนะนำให้ทาน “ซัทสึมะ” คู่กับ “ซันอะเวย์”
ให้ทานต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป โดยขั้นตอนแรก ต้องได้รับการฟื้นฟูผิวจากภายในด้วย “ซัทสึมะ” เพื่อช่วยฟื้นฟูเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรง จากนั้น “ซันอะเวย์” จะช่วยปกป้องผิวจากภายใน ป้องกันผิวถูกทำลายจากแสงแดด ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยแตกแขนงเพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงช่วยลดการเกิดฝ้าเลือดได้
หลังจากทานซัทสึมะไปสักระยะ บางคนอาจพบปัญหาฝ้าที่หน้าเข้มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากมีการขับสารพิษออกจากผิว โดยอาการดังกล่าว เรียกว่า ภาวะกระทุ้งพิษ (Healing Crisis) ซึ่งหลังจากผ่านไป 3-4 เดือน อาการจะดีขึ้นและฝ้าจะค่อย ๆ จางลง
3. ผิวบาง
“ผิวบาง” เกิดจากผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) บางกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เป็นฝ้ามักจะมีปัญหาเรื่องผิวบางตามมาด้วย เนื่องจากมักจะหาวิธีต่าง ๆ มาลดรอยฝ้า เช่น การใช้ครีมหน้าขาว การลอกผิว หรือแม้กระทั่งเลเซอร์ผิว ทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกรบกวนจนเกิดปัญหา “ผิวบาง” ในที่สุด
แนะนำให้ทาน “ซัทสึมะ”
ให้ทานต่อเนื่อง 1-3 เดือน โดยซัทสึมะจะไปกระตุ้นให้ผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) หนาขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาผิวบางได้
ในช่วงแรกหลังจากทานซัทสึมะ อุนชูบางท่านจะพบปัญหาผิวคล้ำ ผด ขุยและผิวแห้ง แต่ไม่ต้องตกใจ!! เนื่องจากสารประกอบในส้มซัทสึมะจะกระตุ้นให้ผิวชั้นนอกหนาขึ้นและช่วยผลัดผิวหนังชั้นกำพร้าหรือผิวเสียออก
4. ผิวติดสาร
“ผิวติดสาร” เกิดจากการใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือปรอทเป็นเวลานาน โดยสารปรอทจะไปทำลายเซลล์ผิว ส่วนสเตียรอยด์จะทำลายภูมิคุ้มกัน และพอหยุดใช้ครีมเหล่านี้ จะทำให้ผิวเกิดผื่นแพ้ สิวอักเสบ สิวผด ผื่นแดง ผิวบาง และผิวไวต่อแสง
ผิวติดสาร ถ้าเป็นมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดฝ้าเลือดได้
แนะนำให้ทาน “ซัทสึมะ”
ให้ทานต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน โดยซัทสึมะจะทำการสร้างคอลลาเจนที่ถูกทำลายไปให้กลับมาเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้ผิวหนังชั้นนอกหนาขึ้น เพื่อดันสารพิษออก ซึ่งช่วงที่มีการฟื้นฟู อาจพบปัญหาหน้าคล้ำ ผิวเป็นขุยหรือผดขึ้นได้บ้าง แต่พอผ่านไปสัก 7-15 วัน ผิวจะกลับมาเป็นปกติและแข็งแรง
หากผิวติดสารหนัก ๆ แนะนำให้ทาว่านหางจระเข้ร่วมด้วย เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและขับสารพิษออก
5. ผิวไวต่อแสง
“ผิวไวต่อแสง” หรือ photosensitivity เป็นสภาวะที่ผิวชั้นนอกบางกว่าปกติหรือเซลล์ผิวอ่อนแอ เพราะถูกรบกวนด้วยสารเคมี ทำให้เมื่อออกแดดเป็นเวลานาน ผิวจะเริ่มแดง แสบร้อน คล้ำเสีย ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย ซึ่งหากโดนแดดจัดประมาณ 30 นาที อาจทำให้ผิวไหม้ได้เลย ส่วนคนที่มีฝ้ากระร่วมด้วย จะทำให้ฝ้ากระชัดขึ้นในช่วงออกแดด
คนผิวขาว มักจะเกิดอาการ “ผิวไวต่อแสง” ได้ง่ายกว่าคนผิวคล้ำ
แนะนำให้ทาน “ซันอะเวย์”
ให้ทานต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน จะช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการแสบร้อนของผิวและปัญหาผิวแดงที่เกิดจากแสงแดดระหว่างวัน นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ ออกแดดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ให้ผิวสัมผัสกับแดดจัด ๆ โดยตรง และควรใช้ครีมกันแดดหรือกางร่ม ควบคู่กับไปการทาน “ซันอะเวย์” เพื่อช่วยปกป้องผิวอีกขั้น
6. ผิวอ่อนแอ
ผิวอ่อนแอ ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมามากมาย ซึ่งเกิดจากผิวถูกรบกวนจากมลภาวะ ฝุ่นควัน รวมถึงสารเคมีต่าง ๆ ทำให้ไม่ว่าจะใช้อะไรผิวก็แพ้ง่าย ทั้งยังพบปัญหาผิวแห้งกร้าน หน้าหมองคล้ำ สิวขึ้นบ่อยอีกด้วย เพราะฉะนั้น วิธีแก้ปัญหาคือ ควรฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง เพื่อให้ผิวสุขภาพดีกลับคืนมา
แนะนำให้ทาน “ซัทสึมะ”
ให้ทานต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน โดย “ซัทสึมะ” จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวจากภายใน จึงช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวอีกด้วย
7. ริ้วรอย
“ริ้วรอย” ปัญหาผิวที่สามารถพบได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี ซึ่งรังสี UVA จากแสงแดด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ซึ่งเราสามารถพบริ้วรอยได้ทั่วใบหน้า บริเวณหน้าผาก หางตา และจมูก
แนะนำให้ทาน “ซันอะเวย์”
ให้ทานต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน ซึ่ง “ซันอะเวย์” จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ริ้วรอยลดลง โดยมีงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการทดลองในผู้หญิงอายุประมาณ 47 ปี พบว่า ผู้ที่ได้รับแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) 4 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง
8. ฝ้าฮอร์โมน
ฝ้าฮอร์โมน พบมากในช่วงตั้งครรภ์หรือช่วงที่มีการใช้ยาคุมกำเนิด โดยเกิดจากร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโพรเจสเทอโรน (Progesterone) มากเกินไป ทำให้เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ทำงานผิดปกติ บางคนจึงมีฝ้าขึ้นที่ใบหน้า รักแร้ หรือบริเวณขาหนีบและยังกระตุ้นให้ฝ้าเข้มกว่าเดิม
แนะนำให้ทาน “ซันอะเวย์”
ในซันอะเวย์ มีสารสำคัญ คือ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จึงป้องกันการเกิดฝ้ากระใหม่และช่วยลดสีฝ้ากระเดิมให้จางลง
สำหรับผู้ที่เป็น “ฝ้าตื้น”แนะนำให้ทานต่อเนื่อง 1-3 เดือน ส่วน “ฝ้าลึก” แนะนำให้ทานต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือน จะทำให้อาการดีขึ้นและฝ้าค่อย ๆ จางลง
ซัทสึมะ อุนชู (Satsuma Unshiu) วิตามินฟื้นบำรุงผิวจากภายใน สูตรเข้มข้นจากญี่ปุ่น เน้นฟื้นฟูผิวติดสาร แก้ฝ้าหนัก แก้ฝ้าหน้าพัง หน้าพังจากเลเซอร์ ฝ้าเลือด ผิวอักเสบ รวมไปถึงช่วยฟื้นฟูเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรง พร้อมปรับโครงสร้างอิลาสตินผิวให้แข็งแรง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
ซันอะเวย์ (Sunaway) วิตามินกินกันแดด ตัวช่วยผิวรับรังสียูวีจากภายใน ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ลดการเกิดฝ้ากระแดด ฝ้าลึก ฝ้าฮอร์โมน ริ้วรอย และเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไวต่อแสง ผู้ที่ไม่สะดวกทาครีมกันแดด และผู้ที่ออกแดดเป็นประจำ