เลเซอร์ อีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา “ฝ้า กระ” ที่เห็นผลรวดเร็วกว่าการมานั่งทายาหรือสกินแคร์เป็นไหน ๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเอฟเฟคผิวหลังจากการทำเลเซอร์ในช่วงแรก ๆ นั้นมีอะไรบ้าง? วันนี้เราจะมาเจาะลึกสารพัดปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นได้หลังเลเซอร์ ฝ้า กระ พร้อมทริคดูแลผิวง่าย ๆ ทั้งก่อนและหลังการทำเลเซอร์

“ทำความรู้จัก ฝ้า กระ” 

  • ฝ้า (Melasma) คือ รอยปื้นที่ปรากฏบนผิว สีที่เห็นจะแตกต่างกันตามสีผิวเดิมและความตื้นลึกของฝ้า โดยส่วนมากจะพบเห็นเป็นปื้นสีน้ำตาลตั้งแต่อ่อน-เข้ม สาเหตุหลักเกิดจากแดดหรือแสงยูวีที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมของเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังจนค่อย ๆ เข้มขึ้นและปรากฏชัดขึ้นเป็นรอยปื้นบนผิว
  • กระ (Freckles) คือ จุดกลมสีน้ำตาลที่กระจายอยู่ตามผิวหนัง อาจเข้มหรือจางต่างกันตามสภาพผิว สาเหตุที่พบส่วนใหญ่มักมาจากการถูกแดดและแสงจากหน้าจอเป็นเวลานานเช่นเดียวกับฝ้า นอกจากนี้ กระยังเกิดได้จากการทำงานของเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ไปจนถึงเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา ฝ้า กระ ยังมีอีกมากมาย เช่น ฮอร์โมน ความเครียด ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น เป็นต้น

การเลเซอร์รักษา ฝ้า กระ

เครื่องมือสำหรับทำเลเซอร์รักษาฝ้ากระในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลากหลายนวัตกรรม แต่กลไกการทำงานหลัก ๆ จะไม่ต่างกันมาก คือ เป็นการยิงเลเซอร์บริเวณที่เป็นฝ้ากระเพื่อให้พลังงานหรือแสงจากเลเซอร์เข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานิน ฝ้า กระจึงแลดูจางลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หากจะให้เห็นผลดีต้องทำการเลเซอร์ต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สารพัดปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้! หลังเลเซอร์ ฝ้า กระ

1. ผิวบาง

การยิงเลเซอร์ที่เป็นพลังงานหรือแสงเข้าสู่ใต้ผิวหนังย่อมทำให้การเกิดรบกวนเซลล์ผิวตั้งแต่ผิวชั้นนอก (Epidermis) ไปจนถึงผิวชั้นล่างสุด จึงทำให้ผิวบางและระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งปัญหาผิวบางนี้พบได้มากหลังการทำเลเซอร์ช่วงสัปดาห์แรกและจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ผิวบาง

2. ผิวไวต่อแสง

บริเวณผิวที่ผ่านการทำเลเซอร์จะบางและอ่อนไหวง่าย ทำให้ผิวไวต่อแสงมากกว่าปกติ สามารถฟื้นฟูด้วยสกินแคร์ตามที่แพทย์แนะนำ และหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวบริเวณที่ผ่านการทำเลเซอร์สัมผัสกับแดดในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหรือจนกว่าผิวจะแข็งแรงขึ้น

3. ผิวแพ้ง่าย

ผิวบาง เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของปัญหาผิวทั้งหลายโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย นอกจากนี้ หลังการทำเลเซอร์ใหม่ ๆ ในบางรายอาจมีอาการบวมแดง ผิวไหม้ ระคายเคือง หรือเกิดผดผื่นบริเวณที่ยิงเลเซอร์ได้เช่นกัน แต่หากเลือกแพทย์และเครื่องมือที่ได้คุณภาพจะสามารถป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้

4. เกิดฝ้าซ้ำง่ายกว่าเดิม

ผิวที่ถูกรบกวนด้วยแสงหรือพลังงานที่เข้มข้นจากเลเซอร์จะมีสภาพที่อ่อนแอ เมื่อถูกแดดหรือสิ่งกระตุ้นเพียงเล็กน้อยอย่างฮอร์โมนหรือความเครียดจึงเกิดฝ้ากระซ้ำได้ง่ายกว่าเดิม และสามารถเกิดซ้ำในบริเวณที่ทำเลเซอร์ได้อีกด้วย

5. ผิวขาดน้ำ

กลไกของการทำเลเซอร์ คือ การเปลี่ยนพลังงานจากแสงเป็นความร้อนเข้าสู่ผิวเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวในบริเวณนี้แห้งหรือขาดน้ำได้นั่นเอง หากดูแลไม่ดีจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้นจนลอกเป็นขุยในที่สุด

6. ผิวด่างขาว

การยิงเลเซอร์เพื่อรักษาฝ้ากระ คือการยิงแสงเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนัง จึงมีโอกาสที่เซลล์ผิวบางส่วนอาจถูกทำลายด้วยเช่นกัน ทำให้ผิวเกิดเป็นจุดด่างขาว ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์รักษาฝ้ากระควรศึกษาทั้งสถานที่ ผู้ทำการรักษา และเครื่องมือที่ได้คุณภาพ

เอฟเฟคผิวที่เกิดขึ้นมักมีผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกัน หากเกิดเอฟเฟคใดเอฟเฟคหนึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาด้วย การดูแลผิวอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

วิธีดูแลผิวก่อนทำเลเซอร์รักษา ฝ้า กระ

  • ทาครีมกันแดดหรือปกป้องผิวทุกครั้งเมื่อต้องออกแดด
  • งดการทาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง
  • งดการสครับผิว และหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว
  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงอยู่เสมอ
  • งดรับประทานยาบางชนิดตามแพทย์สั่ง

วิธีดูแลผิวหลังทำเลเซอร์รักษา ฝ้า กระ

  • ดูแลผิวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • งดการแคะ แกะ เกา สครับ หรืออื่น ๆ ที่อาจทำให้ผิวบางและระคายเคืองได้
  • งดหรือหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยไม่จำเป็น
  • ทาสกินแคร์และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวตามคำแนะนำของแพทย์

การเลเซอร์เป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งในการรักษาฝ้า กระเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีผิวบางและผิวไวต่อแสงอยู่แล้ว จะไม่เหมาะกับวิธีนี้แต่สามารถรักษาบรรเทาด้วยวิธีอื่น ๆ อย่างการทายาหรือสกินแคร์อย่างสม่ำเสมอได้ และแม้จะผ่านการเลเซอร์รักษาฝ้า กระแล้ว ก็มีโอกาสเกิดฝ้า กระซ้ำได้อีกเช่นกัน ฉะนั้น ทางที่ดีคือ เริ่มดูแลตั้งแต่ต้นเหตุที่แท้จริงอย่างการทาครีมกันแดด หรือการปกป้องผิวจากรังสียูวีต่าง ๆ