สเตียรอยด์ เป็นสารอันตรายที่ผิดกฎหมายหากนำมาใช้โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีการลักลอบใส่สารสเตียรอยด์ในครีมผิวขาว ครีมหน้าขาว โดยเฉพาะครีมกวนมือ ที่มีขายทั่วไปตามอินเตอร์เน็ตและไม่ได้รับมาตรฐาน

รบกวนผิวด้วยครีมหน้าขาว ทำให้เกิดฝ้ากระ

หากใช้ครีมสเตียรอยด์ เป็นเวลานาน จะส่งผลผิวบริเวณนั้นบาง ผิวไวต่อแสง ผิวแตกลาย และเสี่ยงต่อการเกิดสิวอักเสบเรื้อรัง 

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าครีมที่ใช้มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือไม่! วันนี้ MYSC ได้รวบรวมวิธีสังเกต “ครีมสเตียรอยด์” มาให้แล้ว ไปดูกันเลย

1. ข้อมูล รายละเอียดผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ต้องมีข้อมูลระบุชัดเจน ดังนี้

  • ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า
  • ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต กรณีที่นำเข้าต้องระบุชื่อผู้ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า ประเทศที่ผลิต
  • ปริมาณ, วิธีใช้, ข้อแนะนำ, คำเตือน, วัน เดือน ปีที่ผลิต, วันหมดอายุ, เลขหรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต
  • ชื่อสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์
  • ข้อความยืนยันความปลอดภัย เช่น เลขอย.

2. คำโฆษณา

ไม่มีข้อความ คำโฆษณา ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสินค้า ไม่ใช้ข้อความที่ขัดต่อศีลธรรมหรือวัฒนธรรมอันดีงามของไทย

3. เนื้อครีมไม่แยกออกจากกัน

เนื้อครีมต้องไม่แยกชั้นออกจากกัน เช่น แยกของเหลวหรือน้ำลอยขึ้นมาชั้นบนออกจากชั้นครีม

4. เนื้อครีมต้องไม่เปลี่ยนสีเร็ว

เนื้อครีมต้องไม่เปลี่ยนสีเร็ว อาจจะเปลี่ยนหลังจากที่ซื้อ 1-3 เดือน เช่น เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเทา หรือเหลือง

5. ไม่เห็นผลเร็วเกินไป

ต้องไม่เห็นผลเร็วเกินไป โดยเฉพาะภายใน 7 วัน เพราะครีมที่ดีต้องใช้เวลาในการผลัดเซลล์ผิว

6. ต้องมีกลิ่นที่ปกติ

ครีมต้องไม่มีกลิ่นแปลก ไม่ควรมีกลิ่นน้ำหอมจนฉุนจมูก เพราะอาจเป็นการกลบกลิ่นสารเคมีอันตรายที่อยู่ในเนื้อครีม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย

การสังเกตครีมสเตียรอยด์ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีการสังเกตแบบง่าย ๆ และในปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จำหน่ายชุดตรวจสอบหาสารสเตียรอยด์ แต่เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นควรศึกษาหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้นให้แน่ใจก่อน ว่ามีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยหรือใบรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากหน้าพังขึ้นมา การรักษาย่อมยากกว่าการดูแล